‘ไทย’ติดโผ1ใน14ชาติ ‘EU’อนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศได้ช่วง’โควิด’ระบาด

เป็นเวลากว่า 4 เดือน นับแต่มีการออกประกาศห้ามการท่องเที่ยวยุโรปเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ โควิด-19

แต่ในไม่ช้านี้ สหภาพยุโรป หรือ EU จะมีมติเปิดพรมแดนประเทศโซนยุโรปให้นักท่องเที่ยวกลับมาเที่ยวได้อย่างเป็นทางการจากอย่างน้อย 14 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย แต่ไม่มีประเทศใหญ่ ๆ อย่าง สหรัฐอเมริกา บราซิล และรัสเซีย

หลังผ่านการถกเถียงกันในเรื่องเกณฑ์การกำหนดประเทศที่จะได้รับการอนุมัติให้เดินทางเข้าประเทศในยุโรปได้ โดยคำนึงถึงความเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดการระบาดของ โควิด-19 ระลอกสอง คาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะมีการเปิดเผยรายชื่อประเทศที่แน่นอนอีกครั้ง หลังเจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรปได้ทำการถกเถียงกันอีกครั้งเมื่อวันศุกร์ว่า ประเทศใดอยู่ในรายชื่อประเทศที่เข้ายุโรปได้ และประเทศใดห้ามเข้า

 

 

ข้อมูลล่าสุดจาก Le Monde มีรายชื่อ 14 ประเทศที่ได้รับอนุญาต (กลุ่มสีเขียว) ให้เดินทางเข้ายุโรปได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ดังนี้

  1. แอลจีเรีย (Algeria)
  2. ออสเตรเลีย (Australia)
  3. แคนาดา (Canada)
  4. จอร์เจีย (Georgia)
  5. ญี่ปุ่น (Japan)
  6. เซอร์เบีย (Serbia)
  7. เกาหลีใต้ (South Korea)
  8. มอนต์เตเนโกร (Montenegro)
  9. โมรอกโก (Morocco)
  10. นิวซีแลนด์ (New Zealand)
  11. รวันดา (Rwanda)
  12. ไทย (Thailand)
  13. ตูนิเซีย (Tunisia)
  14. อุรุกวัย (Uruguay)

อย่างไรก็ตาม รายชื่อดังกล่าวอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงทุก 2 สัปดาห์ เนื่องจากต้องหมั่นสังเกตสถานการณ์ โควิด-19 ในแต่ละประเทศ ประกอบกับมีการคาดการณ์ว่า ภาคการท่องเที่ยวระหว่างประเทศในยุโรปจะค่อย ๆ ฟื้นตัว อาจมีนักท่องเที่ยวมากขึ้น จนเกิดการระบาดของ โควิด-19 ซ้ำได้

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ข้อมูลจาก Euronews ระบุว่า มีอยู่ 54 ประเทศ ที่อยู่ในร่างรายชื่อประเทศที่จะได้รับอนุญาต แต่เมื่อผ่านการพิจารณากันโดยละเอียด ทำให้ร่างรายชื่อดังกล่าวเหลือเพียง 14 ประเทศเท่านั้น ทั้งนี้ “เป็นที่ชัดเจนว่าตัวเลขและรายชื่อเหล่านี้อาจผันผวนต่อไป”

นอกจากรายชื่อประเทศในกลุ่มสีเขียวแล้ว สหภาพยุโรปยังร่างรายชื่อประเทศ “กลุ่มสีแดง” ไว้ราว 50 ประเทศ ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่จะยังคงไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ายุโรปเนื่องจากสถานการณ์ โควิด-19 ในประเทศเหล่านั้นยังอยู่ในขั้นน่าเป็นกังวล นอกเหนือจากสหรัฐอเมริกา บราซิล และรัสเซีย แล้ว ยังมี อิสราเอล ตุรกี และซาอุดิอาระเบีย ด้วย