นโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัท ที.พี.แอนด์ แอสโซซิเอทส์ (1992) จำกัด  (ซึ่งต่อไปในนโยบายฉบับนี้จะเรียกว่า “บริษัท” หรือ “เรา”) จะให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อความเป็นส่วนตัว และการักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า  (“ลูกค้า” หรือ “ท่าน”)  ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมของบริษัทฯ เราเคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของคุณและมุ่งมั่นที่จะปกป้องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเต็มที่

นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ครอบคลุมถึงวิธีการที่เราจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการ  ระยะเวลา  และเหตุผลที่เก็บรวบรวม ทีใช้เปิดเผย ถ่ายโอน หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และขั้นตอนใดที่บริษัทฯ ดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านยังคงเป็นส่วนตัว และปลอดภัย ระยะเวลาที่บริษัทฯเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า วิธีการที่ท่านสามารถติดต่อทางบริษัทฯ และสิทธิ์ของท่านภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือที่เรียกว่า PDPA

นอกจากนี้ บุคคลใดๆ ผู้ที่มีชื่ออยู่ในกรมธรรม์ประกันภัยของท่าน และได้ให้ความยินยอมแก่ท่าน เพื่อให้ท่านกระทำแทนพวกเขา ควรได้รับทราบนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ด้วย

1. คำนิยาม

  • “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลที่ทำให้สามารถระบุตัวตน ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ ไม่ว่าทรงตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
  • “ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลที่กำหนดไว้ตามมาตรา 26 ของ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อันได้แก่ เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนา หรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรมจากครอบครัว ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใด ซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่กฎหมายกำหนด
  • “กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงกฎหมายลำดับรองที่ตราขึ้น และตามที่มีการแก้ไขเป็นครั้งคราว

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม

ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมสำหรับ ใช้ หรือเปิดเผย  (ต่อไปจะเรียกรวมกันว่า “การประมวลผล”)  จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับประเภทของผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจเคยใช้ หรือสนใจ โดยมีทั้งข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป และข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะข้อมูลดังต่อไปนี้

  • ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป เช่น ชื่อ ชื่อกลาง นามสกุล เพศ วันเดือนปีเกิด อายุ การศึกษา สถานภาพสมรส สัญชาติ
  • ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ติดต่อทางไปรษณีย์ ที่อยู่อิเล็กทรอนิกส์ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรสาร บัญชีสื่อสังคมออนไลน์
  • ข้อมูลที่ใช้ในการระบุตัวตน และการยืนยันตัวตน เช่น ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน เลขประจำตัวประชาชน เลข Laser  (ด้านหลังบัตรประจำตัวประชาชน) ข้อมูลหนังสือสำคัญ บัตรประจำตัวคนต่างด้าว ใบอนุญาตขับรถ ลายมือชื่อ
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงาน เช่น อาชีพ รายละเอียดเกี่ยวกับนายจ้าง และสถานที่ทำงาน ตำแหน่ง เงินเดือน ค่าตอบแทน
  • ข้อมูลทางการเงิน เช่น รายได้ แหล่งที่มาของรายได้ เลขที่บัญชีธนาคาร บัตรเครดิต บัตรเดบิต ข้อมูลเกี่ยวกับภาษี การเคลื่อนไหวของบัญชีบริษัทฯ การกู้เงิน การลงทุน ข้อมูลเกี่ยวกับการชำระเงิน
  • ข้อมูลผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการต่างๆ เช่น ผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการต่างๆ ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเคยซื้อจากบริษัทฯ หรือผู้ประกอบธุรกิจประกันภัยรายอื่น   (เช่น หมายเลขกรมธรรม์ จำนวนเงินเอาประกันภัย การเปลี่ยนแปลง/การทำธุรกรรมเกี่ยวกับกรมธรรม์)  ข้อมูลเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัย และการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีอยุ่กับบริษัทฯ หรือผู้ประกอบธุรกิจประกันภัยรายอื่นในปัจจุบัน  (เช่น ข้อมูลความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย ประวัติการชำระเบี้ยประกันภัย ข้อมูลการรักษาพยาบาล ข้อมูลประวัติการเรียกร้องสินไหมทดแทน รวมถึงการใช้สิทธิต่างๆ ภายใต้กรมธรรม์ หรือผลิตภัณฑ์ หรือบริการอื่นๆ ของบริษัทฯ หรือผู้ประกอบธุรกิจประกันภัยรายอื่น)
  • ข้อมูลการวิจัยตลาด ข้อมูลการตลาด และยอดขาย เช่น ข้อมูล และความเห็นที่แสดงออกเมื่อเข้าร่วมวิจัยตลาด หรือสำรวจความคิดเห็น/ความพึงพอใจของลูกค้า
  • ข้อมูลเพื่อการตรวจสอบ เช่น ข้อมูลเพื่อการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริง  (Due diligence)  (เช่น ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการให้ลูกค้าแสดงตน (KYC)  การตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า  (Customer Due Diligence)  ข้อมูลเพื่อการตรวจสอบและการบริหารความเสี่ยงเกี่ยวกับการฟอกเงิน และการต่อต้านการก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ข้อมูลเพื่อตรวจสอบภาวะล้มละลาย
  • ข้อมูลทางภูมิศาสตร์ และข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ เช่น สาขาบริษัทฯ ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลติดต่อหมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์  (IP address)  คุกกี้  (Cookies)  ประเภท และเวอร์ชั่นของเบราว์เซอร์ การตั้งค่าเขตเวลา ประเภทของปลั๊กอินในเบราว์เซอร์ ระบบปฏิบัติการ และแพลตฟอร์ม ข้อมูลผู้ใช้  (User Profile)  ข้อกำหนดเฉพาะทางเทคนิค และข้อมูลเฉพาะที่ใช้ระบุตัวตน  (เช่น หมายเลข IMEI  (International Mobile Equipment Identity) ของโทรศัพท์มือถือ หรือหมายเลขเฉพาะประจำอุปกรณ์  (unique device identifier) อื่น ๆ และรายละเอียดใด ๆ เกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือ)
  • ข้อมูลการเข้าใช้ และการขอใช้บริการ เช่น ข้อมูลการเข้าใช้ระบบของบริษัทฯ การทำธุรกรรมกับบริษัทฯ  ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และแอปพลิเคชันของบริษัทฯ
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย เช่น รูปภาพ ลักษณะรูปพรรณสัณฐานบุคคล การตรวจพบข้อสงสัย หรือธุรกรรมที่ผิดปกติ ภาพถ่าย หรือภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด
  • ข้อมูลอื่นๆ เช่น บันทึกการโต้ตอบ และการสื่อสารระหว่างเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัทฯ ไม่ว่าจะในรูปแบบ หรือวิธีใดๆ ก็ตาม รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง โทรศัพท์ อีเมล ข้อความสนทนา และการสื่อสารทางสื่อสังคมออนไลน์ ข้อมูลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ไว้กับบริษัทฯ ไม่ว่าผ่านช่องทางใดๆ
  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เช่น ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลความพิการ ข้อมูลพันธุกรรม กรุ๊ปเลือด ประวัติอาชญากรรม ศาสนา ข้อมูลชีวภาพ  (biometric data) (เช่น การจดจำใบหน้า  (face recognition) ลายนิ้วมือ  (fingerprint) การจดจำเสียง  (voice recognition) และการจดจำม่านตา  (retina recognition))

ในกรณีที่ บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย หรือการเข้าทำสัญญากับท่าน หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลบางอย่างที่จําเป็นต่อการดําเนินงานของบริษัทฯ บริษัทฯ อาจไม่สามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์ ด้านล่างหรือให้บริการแก่ท่านได้อย่างเต็มรูปแบบ หรือท่านอาจจะไม่สามารถใช้บริการของ บริษัทฯ ได้อย่างเหมาะสม และอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติตามกฎหมายใดๆ ที่ บริษัทฯ หรือท่านมีหน้าที่ ต้องปฏิบัติตาม

หากท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามแก่ บริษัทฯ ท่านต้องปฏิบัติตาม กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการขอความยินยอม หรือแจ้งนโยบายฉบับนี้แก่บุคคล ที่สามในนามของ บริษัทฯ เพื่อให้ บริษัทฯ สามารถปฏิบัติงานต่อไปได้ตามวัตถุประสงค์ ที่กำหนดในนโยบายฉบับนี้และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

3. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านทางช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

  • เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแสดงเจตนาจะซื้อ หรือใช้ประกันภัยส่วนบุคคล ประกันภัยกลุ่ม  และ/หรือ  เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าถึง หรือใช้เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน และ/หรือ บริการต่าง ๆ ทางออนไลน์ บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ หรือทางโทรศัพท์ หรือบริการอื่น ๆ ของบริษัทฯ  (“ผลิตภัณฑ์” หรือ“บริการ”)
  • เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลส่งเอกสาร และใบคําขอเอาประกันภัย เพื่อซื้อ หรือใช้ หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ข้อมูล ขณะที่พิจารณาจะซื้อ หรือใช้ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการต่างๆ ของบริษัทฯ
  • เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลส่งคําร้องขอให้มีการเปลี่ยนแปลง หรือปรับปรุงผลิตภัณฑ์ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซื้อ หรือบริการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลใช้ หรือคําร้องขออื่นใดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซื้อ หรือบริการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลใช้ รวมถึงการส่งแบบฟอร์ม และเอกสารเกี่ยวกับการขอรับบริการที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ
  • เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลติดต่อกับบุคลากร เจ้าหน้าที่บริการลูกค้า พนักงานขาย ตัวแทนประกันวินาศภัย นายหน้าประกันวินาศภัย ผู้รับจ้าง คู่ค้า ผู้ให้บริการ ผู้รับมอบอํานาจ ผู้กระทําการแทน หรือบุคคลอื่น หรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องของบริษัทฯ (เรียกรวมกันว่า  “บุคลากรและคู่ค้าของบริษัทฯ”)  ผ่านทางเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน สื่อสังคมออนไลน์ โทรศัพท์ อีเมล การพบปะกันโดยตรง การสัมภาษณ์ ข้อความสั้น  (SMS)  โทรสาร ไปรษณีย์ หรือโดยวิธีการอื่นใด
  • เมื่อบริษัทฯ ได้รับการแนะนําเกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือเมื่อบริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคลากร และคู่ค้าของบริษัทฯ
  • เมื่อบริษัทฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลภายนอกเกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จํากัดเพียงการได้รับข้อมูลจากการตรวจสอบจากแหล่งข้อมูลที่เป็นสาธารณะ แหล่งข้อมูลส่วนตัว หรือแหล่งข้อมูลเชิงพาณิชย์ เว็บไซต์ แหล่งข้อมูลสื่อสังคมออนไลน์ ผู้ให้บริการข้อมูล  (Data Providers)  แหล่งข้อมูลทางการแพทย์ สถานบริการสาธารณสุข โรงพยาบาล แพทย์ บุคลากรผู้ประกอบวิชาชีพสาธารณสุขอื่น ผู้ประกอบธุรกิจประกันภัยอื่น สมาคม หรือสมาพันธ์ของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซื้อ หรือบริการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลใช้ ใบคําขอเอาประกันสําหรับผลิตภัณฑ์ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซื้อ หรือบริการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลใช้ การรับประกันความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซื้อ การร้องเรียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และ/หรือ ผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ ที่ซื้อ หรือใช้โดยเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล  (“แหล่งข้อมูลที่เป็นบุคคลภายนอก”)
  • เมื่อบริษัทฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคลจากบุคคลภายนอกเกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามกฎหมาย และเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการกํากับดูแลในประการอื่นๆ ตลอดจนเพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ที่ชอบด้วยกฎหมาย เช่น บริษัทฯ อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจากคณะกรรมการกํากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)
  • เมื่อบริษัทฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากลูกค้านิติบุคคล ในฐานะที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นกรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน ตัวแทน ผู้ที่ได้รับมอบหมาย หรือผู้ติดต่อแทนนิติบุคคล
  • เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลติดต่อสื่อสารกับบริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารเป็นหนังสือ หรือวาจา โดยไม่คํานึงว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ติดต่อฝ่ายนั้นก่อนหรือไม่ก็ตาม
  • เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลส่งข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทฯ เพื่อเข้าร่วมในกิจกรรมทางการตลาด การประกวด การจับฉลากชิงโชค งานอีเว้นท์ หรือการแข่งขันต่างๆ ที่จัดขึ้นโดย หรือในนามของบริษัทฯ และ / หรือ บุคลากรและคู่ค้าของบริษัทฯ

เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลภายนอกแก่บริษัทฯ  (ซึ่งบุคคลภายนอกดังกล่าวรวมถึงแต่ไม่จํากัดเพียงผู้เอาประกันภัย สมาชิกในครอบครัว ผู้ชําระเงินตามกรมธรรม์ หรือผู้รับประโยชน์)  เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการขอความยินยอม หรือแจ้งนโยบายฉบับนี้แก่บุคคลที่สามในนามของบริษัทฯ ทั้งนี้ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลรับรอง และรับประกันความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น พร้อมทั้งรับรองและรับประกันว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้แจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบอย่างครบถ้วนแล้วเกี่ยวกับรายละเอียดตามนโยบายฉบับนี้

4. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะกรณีที่จำเป็น หรือมีฐานทางกฎหมายเท่านั้น ซึ่งรวมถึงกรณีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการดําเนินการเกี่ยวกับการเข้าทําสัญญาประกันภัย หรือการดําเนินการตามสัญญา การดําเนินการตามความจําเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ  เพื่อการวิเคราะห์และจัดทําสถิติ  เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อการดําเนินการอื่นๆ ที่จําเป็น โดยวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ มีดังต่อไปนี้

4.1  เพื่อดําเนินการเกี่ยวกับการเข้าทําสัญญาประกันภัย หรือการดําเนินการตามสัญญา

  • เพื่อเสนอขาย ขาย จัดให้ บริหารจัดการ ดําเนินการ ปฏิบัติตามขั้นตอนกระบวนการ และจัดการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และ/ หรือบริการของบริษัทฯ ให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
  • เพื่อปฏิบัติตามขั้นตอนกระบวนการ จัดการ ทําให้แล้วเสร็จ ซึ่งการให้บริการ หรือผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ และการแนะนําผลิตภัณฑ์ และบริการที่เหมาะสมให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล การปฏิบัติตามขั้นตอนกระบวนการเกี่ยวกับใบคําขอเอาประกันสําหรับผลิตภัณฑ์ การจัดการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซื้อ การเก็บเบี้ยประกันภัย และเงินค้างชําระจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล การสืบสวน วิเคราะห์ ประมวลผล การเวนคืนกรมธรรม์ และการจ่ายค่าสินไหมทดแทน/การจ่ายผลประโยชน์ภายใต้กรมธรรม์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และการต่ออายุ การปรับปรุงแก้ไข การยกเลิกกรมธรรม์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนถึงการใช้สิทธิใด ๆ ภายใต้กรมธรรม์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงสิทธิในการรับช่วงสิทธิ และสิทธิที่ได้รับช่วงมาด้วย (หากมี)

4.2  เพื่อดําเนินการตามความจําเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ

  • เพื่อการจัดการเกี่ยวกับการประกันภัยของบริษัทฯ  เช่น การออกแบบผลิตภัณฑ์ หรือบริการใหม่ของบริษัทฯ หรือการเสริมเพิ่มเติมผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่มีอยู่ของบริษัทฯ  การดําเนินการเพื่อทําประกันภัยต่อสําหรับผลิตภัณฑ์ หรือบริการของบริษัทฯ ให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
  • เพื่อการติดต่อสื่อสารกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงการสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการ และข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ หรือบัญชีใดๆ ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจมีกับบริษัทฯ  การให้การสนับสนุนทางเทคนิคเกี่ยวกับเว็บไซต์ และแอปพลิเคชันของบริษัทฯ  หรือการสื่อสารเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่จะมีขึ้นต่อนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ในอนาคต
  • เพื่อการป้องกันการฉ้อโกง เช่น การสืบสวน หรือป้องกันการกระทําที่เกี่ยวกับการฉ้อโกง การปกปิดข้อความจริง และการกระทําผิดอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการกระทําผิดจริง หรือการกระทําที่สงสัยว่าจะเป็นการกระทําผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อการติดต่อสื่อสารกับผู้ประกอบธุรกิจบริการทางการเงิน และการประกันภัย ตลอดจนเพื่อการติดต่อสื่อสารกับหน่วยงานกํากับดูแลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ
  • เพื่อการให้บริการช่องทางการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น เพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถเข้าถึงเนื้อหาในเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ หรือบริการอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นการเฉพาะ โดยบริษัทฯ  อาจประมวลผลพฤติกรรมการใช้เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อการวิเคราะห์การใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และการทําความเข้าใจลักษณะการใช้งานที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลชอบ เพื่อจัดทําให้เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์เหล่านั้นตอบสนองอย่างเหมาะสมกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยเฉพาะ เพื่อการประเมิน หรือดําเนินการ และการปรับปรุงเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์เหล่านั้น หรือผลิตภัณฑ์ และ / หรือ บริการของบริษัทฯ การแก้ไขปัญหาต่างๆ การแนะนําผลิตภัณฑ์ และ / หรือ บริการที่เกี่ยวข้อง และการจัดโฆษณาบนเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และช่องทางอื่นๆ ตามกลุ่มเป้าหมาย
  • เพื่อการบริหารจัดการข้อมูล เช่น เพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการ จัดเก็บบันทึก สํารอง หรือทําลายข้อมูลส่วนบุคคล
  • เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการให้บริการของบริษัทฯ  เช่น การตรวจสอบ และเพิ่มคุณภาพ รวมทั้งการฝึกอบรม เมื่อมีการบันทึกการติดต่อสื่อสารของบริษัทฯ
  • เพื่อการดําเนินการส่งเสริมการขาย เช่น การดําเนินการให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประกันภัย และการบริการที่เหมาะสมแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งอาจรวมถึงการให้คําแนะนํา และข้อมูลในเรื่องต่างๆ ซึ่งรวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์ประกันภัย และการบริการ เช่น โปรแกรมให้รางวัล / ให้ผลประโยชน์สําหรับการเป็นลูกค้าที่มีความภักดีต่อแบรนด์ หรือให้สิทธิพิเศษ กิจกรรมการกุศล / กิจกรรมที่ไม่หวังผล และการจัดกิจกรรมทางการตลาด งานอีเว้นท์ และกิจกรรมอื่นๆ ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเลือกที่จะเข้าร่วมได้
  • เพื่อการปฏิบัติตามนโยบายต่างๆ ของบริษัทฯ  ให้เป็นไปตามข้อกําหนดภายใต้นโยบายภายในของบริษัทฯ  ที่ยึดถือปฏิบัติ
  • เพื่อการวิเคราะห์และจัดทําสถิติ กล่าวคือ การทําวิจัยทางการตลาด การวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง และการทําวิจัยเชิงสถิติ หรือคณิตศาสตร์ประกันภัย การรายงาน หรือการประเมินผลทางการเงินที่จัดทําขึ้นโดยบริษัทฯ  กลุ่มบริษัทฯ บุคลากรและคู่ค้าของบริษัทฯ  หรือหน่วยงานกํากับดูแลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ

4.3  เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย

  • เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการตรวจสอบธุรกิจของบริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบภายใน หรือการตรวจสอบจากบุคคลภายนอก
  • เพื่อดําเนินการให้เป็นไปตามข้อกําหนดของกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อตกลง หรือนโยบายที่ใช้บังคับ ซึ่งกําหนดขึ้นโดยหน่วยงานกํากับดูแลของรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานที่มีหน้าที่ระงับข้อพิพาท สํานักงานคณะกรรมการกํากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือหน่วยงานที่ดูแลธุรกิจประกันภัย
  • เพื่อวัตถุประสงค์ของการบังคับใช้กฎหมาย หรือการให้ความช่วยเหลือ ให้ความร่วมมือ การสืบสวนโดยบริษัทฯ หรือในนามของบริษัทฯ โดยเจ้าหน้าที่ตํารวจ พนักงานเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่รัฐ หรือโดยหน่วยงานรัฐ หรือหน่วยงานกํากับดูแลอื่น ๆ ในประเทศ และการดําเนินการตามหน้าที่ในการรายงาน หรือแจ้งเหตุ และข้อกําหนดต่าง ๆ ตามที่กฎหมายกําหนด หรือตามที่มีการตกลงเห็นชอบกับหน่วยงานรัฐ หรือหน่วยงานกํากับดูแลอื่น ๆ ในประเทศ หรือเขตการปกครองใด ๆ หรือการดําเนินการตามคําสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานของรัฐ
  • เพื่อสนับสนุนการกํากับดูแล และส่งเสริมธุรกิจประกันภัยตามที่สำนักงานคณะกรรมการกํากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยกำหนด และเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัย รวมถึงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสํานักงานคณะกรรมการกํากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (โปรดอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยที่ www.oic.or.th)

4.4  เพื่อการดําเนินการอื่น ๆ ที่จําเป็น

  • เพื่อการดําเนินการที่จําเป็นซึ่งเกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ใดๆ ข้างต้น เว้นแต่กฎหมาย และกฎระเบียบที่ใช้บังคับ รวมถึงกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจะอนุญาตให้กระทําเป็นอย่างอื่น ทั้งนี้ หากบริษัทฯ  ประสงค์จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดนอกเหนือไปจากที่ระบุไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ หรือนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ บริษัทฯ  จะแจ้ง และขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ภายใต้หลักเกณฑ์ของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ  อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ให้กับบุคคลภายนอก ดังต่อไปนี้

  • บุคคลที่เป็นคู่ค้า หรือพันธมิตรของบริษัทฯ  หรือบุคคลภายนอกที่มีความเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่มีการเสนอขายให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล  หรือผลิตภัณฑ์ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจสนใจ เช่น บริษัทประกันภัยต่อ / ประกันภัยร่วม บริษัทจัดการการลงทุน ธนาคาร สถาบันการเงิน สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ผู้ถือกรมธรรม์ ในกรณีของผลิตภัณฑ์ประกันภัยแบบกลุ่ม
  • บุคคลผู้ดําเนินการเชิญชวน ชักชวน ชี้ช่อง จัดการให้ทํา เสนอขาย ขาย จัดจําหน่าย หรือให้บริการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และ / หรือ บริการที่เสนอโดยบริษัทฯ  หรือบริษัทในกลุ่มบริษัทฯ  ให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล  ได้แก่  ตัวแทนประกันวินาศภัย นายหน้าประกันวินาศภัย รวมถึงบุคลากรของนายหน้าประกันวินาศภัยประเภทนิติบุคคล
  • บุคลากรและคู่ค้าของบริษัทฯ  ไม่ว่ารายใดก็ตาม ซึ่งให้บริการเกี่ยวกับการจัดการต่างๆ หรือการให้บริการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล  ได้แก่  บริการเกี่ยวกับกระบวนการทางธุรกิจ บริการเกี่ยวกับการชําระเงิน การทวงหนี้ หรือบริการโทรคมนาคม บริการด้านเทคโนโลยี บริการคลาวด์ บริการจัดหาผู้รับจ้างปฏิบัติงาน บริการคอลเซ็นเตอร์ บริการจัดเก็บของ การดําเนินการเกี่ยวกับเอกสาร บริการเก็บบันทึกข้อมูล บริการสแกนเอกสาร บริการรับส่งไปรษณีย์ บริการจัดพิมพ์ บริการส่งพัสดุ หรือบริการรับส่งพัสดุโดยพนักงานรับส่งพัสดุ บริการวิเคราะห์ข้อมูล บริการทําการตลาด บริการทําการวิจัย บริการบริหารจัดการเหตุฉุกเฉิน บริการทางกฎหมาย หรือบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดําเนินธุรกิจของบริษัทฯ  หรือการจัดให้มีการบริหารจัดการ การดําเนินการ การปฏิบัติตามขั้นตอน หรือการจัดการต่างๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ หรือบริการของบริษัทฯ ให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
  • ผู้ให้บริการก่อนการรับประกันภัย เช่น ผู้สํารวจภัยก่อนรับประกันภัย เป็นต้น
  • ผู้ให้บริการเพื่อชดใช้สินไหมทดแทน เช่น ผู้สํารวจอุบัติเหตุ ศูนย์บริการรถยนต์ อู่ โรงพยาบาล เป็นต้น
  • ผู้ประกอบธุรกิจประกันภัยรายอื่นๆ
  • สมาคม หรือสมาพันธ์ในภาคธุรกิจประกันภัย เช่น สมาคมประกันวินาศภัยไทย
  • บริษัทในเครือกิจการ หรือธุรกิจเดียวกัน ทั้งที่อยู่ในประเทศ หรือต่างประเทศ
  • หน่วยงานที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย คณะกรรมการต่างๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย หน่วยงานรัฐ หรือหน่วยงานกํากับดูแล หน่วยงานที่มีหน้าที่ระงับข้อพิพาท หรือบุคคลอื่นใดในประเทศที่บริษัทฯ  หรือบริษัทในกลุ่มบริษัทฯ  ต้องเปิดเผยข้อมูลให้ เนื่องจากมีหน้าที่ตามกฎหมาย และ / หรือ ตามหน้าที่ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบในประเทศไทย และอาจรวมถึงหน่วยงานของรัฐในประเทศที่กลุ่มบริษัทตั้งอยู่ หรือเนื่องจากมีข้อตกลง หรือนโยบายระหว่างบริษัทในกลุ่มบริษัทฯ  กับรัฐ หน่วยงานกํากับดูแล หรือบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
  • ผู้ให้คําปรึกษาของบริษัทฯ  ซึ่งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ  เช่น  ทนายความ แพทย์ ผู้ตรวจสอบบัญชี หรือที่ปรึกษา
  • บุคคล หรือหน่วยงานใดๆ ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ความยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคลหรือหน่วยงานนั้นๆ ได้
  • ผู้เข้าทําธุรกรรม หรือจะเข้าทําธุรกรรมกับบริษัทฯ  โดยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจเป็นส่วนหนึ่งของการซื้อ หรือขาย หรือเป็นส่วนหนึ่งของการเสนอซื้อ หรือเสนอขายของกิจการของบริษัทฯ  (หากมี)
  • บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่ใช้บังคับ

6. การส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

บริษัทฯ  อาจมีความจำเป็นต้องส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบริษัทในเครือกิจการ หรือธุรกิจเดียวกัน หรือไปยังผู้รับข้อมูลอื่นที่อยู่ต่างประเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจตามปกติของบริษัทฯ  เช่น การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บไว้บนเซิร์ฟเวอร์ หรือเคลาด์ ในต่างประเทศ ซึ่งการส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวขึ้นอยู่กับข้อกำหนดทางสัญญาที่เกี่ยวกับการรักษาความลับ และความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมาย และกฎระเบียบเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับ ในกรณีที่บริษัทฯ  ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ บริษัทฯ  จะปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเครือกิจการ  (Binding Corporate Rules)  ที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล  (หากมี)  หรือมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งจะกำหนดมาตรการที่เหมาะสมในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ส่ง หรือโอนไปยังต่างประเทศ แล้วแต่กรณี

7. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ  จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้ไม่เกิน  10  ปี นับจากวันสิ้นสุดสัญญาประกันภัย หรือนับแต่วันที่อนุญาโตตุลาการมีคำชี้ขาด หรือศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ เว้นแต่มีกฎหมายกำหนดให้บริษัทฯ  ต้องจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้นานกว่าระยะเวลาที่กำหนดดังกล่าว และบริษัทฯ  อาจยังคงจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปอีกหากจำเป็น เพื่อให้บริษัทฯ  สามารถดำเนินการใดๆ ภายใต้กฏหมายที่ใช้บังคับ  เช่น  การก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตาม หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ บริษัทฯ  จะลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้เมื่อหมดความจำเป็น หรือสิ้นสุดระยะเวลาข้างต้น

8. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิดําเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง ดังต่อไปนี้

  • เพิกถอน หรือร้องขอให้เปลี่ยนแปลงขอบเขต ความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ไว้กับบริษัทฯ
  • ขอเข้าถึง ขอรับสําเนา หรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล ที่เกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้ให้ความยินยอม
  • ขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอให้ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น
  • คัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีดังต่อไปนี้
  • กรณีที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมได้โดยได้รับยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอม เนื่องจากเป็นการจําเป็นเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือการจําเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย ตามมาตรา 24  (4)  หรือ  (5)  แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เว้นแต่บริษัทฯ  สามารถพิสูจน์ได้ว่า มีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สําคัญยิ่งกว่า หรือเป็นไปเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตาม หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
  • การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง
  • การประมวลผลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ เว้นแต่เป็นการจําเป็นเพื่อการดําเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัทฯ
  • ขอให้ลบ หรือทําลาย หรือทําให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกําหนด
  • ขอให้ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกําหนด
  • ขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หากบริษัทฯ  ไม่สามารถดําเนินการให้ได้ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอบันทึกคําร้องขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลพร้อมเหตุผลตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกําหนด

ทั้งนี้ บริษัทฯ  ขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาคําร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามความเหมาะสม และตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกําหนด อย่างไรก็ดี บริษัทฯ อาจเรียกเก็บค่าใช้จ่ายตามสมควรเพื่อดําเนินการเกี่ยวกับการขอใช้สิทธิข้างต้นด้วย

9. ช่องทางการติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือต้องการใช้สิทธิในฐานะลูกค้า ท่านสามารถติดต่อ บริษัทฯ ได้ที่

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller)

  • ชื่อ : บริษัท ที.พี. แอนด์ แอสโซซิเอทส์ ( 1992 ) จำกัด
  • สถานที่ติดต่อ : เลขที่ 89 ซ.งามวงศ์วาน 2 แยก 5 ถ.งามวงศ์วาน ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี 11000
  • ช่องทางการติดต่อ : customercare@tp.co.th
  • โทรศัพท์ : 0-2580-7444

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO)

  • สถานที่ติดต่อ : เลขที่ 89 ซ.งามวงศ์วาน 2 แยก 5 ถ.งามวงศ์วาน ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี 11000
  • ช่องทางการติดต่อ : hr@tp.co.th
  • โทรศัพท์ : 0-2580-7444

นโยบายความเป็นส่วนตัวฯ  ฉบับนี้ มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2565